รีวิว+ลองขับ TOYOTA CH-R GR SPORT 2022
อัพราคา 5 หมื่น เติมชุดแต่ง ปรับช่วงล่าง หนึบ แน่น นิ่ง

รถยนต์ Sub-Compact SUV รุ่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้า “C-HR HEV GR Sport ใหม่” ที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร เขียนคิ้วทาปากใหม่ทั้งภายนอก และภายใน สไตล์ GR Sport อัพค่าตัวขึ้นจากรุ่นปกติ 50,000 บาท เป็น 1,189,000 บาท ปรับเซ็ตช่วงล่างใหม่แนวสปอร์ต ขับสนุกยิ่งขึ้น..แต่จะสนุกแค่ไหน แล้วปรับอะไรบ้าง..ตามเจ๊เกียวมาค่ะ!!

TOYOTA C-HR HEV GR Sport มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกแบบสปอร์ตเข้ม ดูดุดันมากยิ่งขึ้น จากแพ็กเกจชุด GR Sport ซึ่งประกอบไปด้วย สเกิร์ตรอบคัน, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่, ไฟตัดหมอกแบบ LED, พร้อมสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ

ภายในตกแต่งด้วยสีดำ Total Look และสี Gun Metallic สปอร์ตเข้มเต็มสไตล์ GR เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ เดินด้ายสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR , พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR

นอกจากนี้ TOYOTA C-HR HEV GR Sport ยังมอบความมั่นใจตลอดการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุม และปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้า พร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (All-speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist) ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-collision system) และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)

สมรรถนะการขับขี่ TOYOTA C-HR HEV GR Sport

เป็นรถยนต์ประเภท Sub-Compact SUV ที่ขับสนุก สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งสายชิล และสายพริ้ว เนื่องจากทรวดทรงองค์เอวมาในแนวกะทัดรัด กระฉับกระเฉง ให้การขับขี่ที่คล่องแคล่ว คล่องตัวสูง จากระบบพวงมาลัยที่แม่นยำ ควบคุมง่าย น้ำหนักกำลังดี

ส่วนอัตราเร่งแซงจากขุมพลังไฮบริด ที่เครื่องยนต์ประสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลิตกำลังม้ารวมสูงสุด 122 ตัว แม้จะไม่จี๊ดจ๊าดติดเท้า แต่ก็ไม่เอื่อยเฉื่อย เรียกว่าขุมพลังเหมาะสมกับขนาดลำตัว ส่งผลให้ตัวรถมีความพริ้วในตัว ขับสนุก อัตราเร่งลื่นไหลต่อเนื่อง และที่สำคัญคือมีฟังก์ชั่นการขับขี่ใช้งานให้เลือกหลากหลาย ทั้งโหมด Sport / Normal และ ECO

สำหรับการทดลองขับในครั้งนี้ เจ๊เกียวเลือกที่จะใช้โหมด ECO วิ่งเป็นหลัก เนื่องจากเชื่อว่าคุณๆ ผู้อ่านทั้งหลายน่าจะผ่านตาเกี่ยวกับบททดสอบ TOYOTA C-HR HEV GR Sport ในรูปแบบ Sport และ Normal กันมาเยอะแล้ว..กลัวเบื่อ!!

ครั้งนี้จึงขอลองขับในรูปแบบ ECO แต่เวลาขับขี่จริงมีทั้งแบบเติมคันเร่งเนียนๆ กระแทกคันเร่งเพื่อเร่งแซง ผ่านทั้งรถติด ทางฝน เติม ๆ ถอน ๆ ลองระบบ All-speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist เรียกกันสั้น ๆ ว่าระบบครูซคอนโทรลแบบแปรผันตามความเร็ว ลองระบบ LDA และ LTA การเตือนรถออกนอกเลน และควบคุมให้รถอยู่กลางเลน



บอกเลย.. TOYOTA C-HR HEV GR Sport เรด้าเค้าเนียนมากจับเส้นเนี๊ยบจริง ชัดเจนจริง ระบบความปลอดภัยให้มาครบครันถูกใจจริงๆ ที่สำคัญคือ ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 19.9 กม./ลิตร ทั้งๆ ที่วิ่งในเมืองสลับนอกเมือง เดินคันเร่งไม่เนียน ขับแบบปกติใช้งานยังประหยัดได้เกือบ 20 กม./ลิตรขนาดนี้ ถ้าเกียวได้ลองระยะยาว ๆ เดินคันเร่งแบบนักย่องเบา ขับทางไกล ๆ เชื่อว่ามีทะลุ 24 กม./ลิตรแน่นวลลลล

ส่วนระบบช่วงล่าง ทางโตโยต้าเค้าพัฒนาคอยล์สปริง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ ที่ออกแบบเพื่อรุ่น GR Sport โดยเฉพาะ ผสานกับประสิทธิภาพช่วงล่างหลังอิสระแบบปีกนกคู่ ซึ่งเจ๊เองต้องยอมรับว่าแอบปลื้มมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวตอนแรกๆ เมื่อราว ๆ 3-4 ปีก่อนแล้ว

สำหรับ TOYOTA C-HR เค้ามาแนวสปอร์ต คุมง่าย หนึบแอบแข็งนิดๆ มาตั้งแต่เกิด แต่พอมาโฉม GR ได้ลองขับแล้วแอบรักเลย ไม่อยากปล่อยตัวกลับบ้านโตโยต้าเลย อยากเก็บไว้ใช้เอง เพราะเค้าเป็นรถที่ขับสนุกจริง เข้าโค้งหนัก ๆ ที่ความเร็วระดับ 80-100 กม./ชม. ก็ยังจิกโค้ง หนึบได้ใจ เวลาใช้ความเร็วสูงราวๆ 100 กม./ชม. ไปแล้วลองหักหลบรถคันด้านหน้าเพื่อลองอาการบางจังหวะเค้ามีโคลงตัวอยู่บ้างแต่น้อย ไม่ทำให้คนขับหวั่นไหว พวงมาลัยนิ่งจิกทุกโค้งที่ลองเข้าหนักๆ

แต่สำหรับอุปกรณ์อำนวยความ อาจจะให้มาน้อยไปนิด หวงช่อง USB ไปหน่อย เบาะนั่งคนขับน่าจะให้ปรับไฟฟ้ามาได้แล้ว ส่วนตำแหน่งที่นั่งด้านหลังอาจจะดีไซน์มาได้ไม่เหมาะสมกับการนั่งโดยสารสักนิด เพราะเสา C ค่อนข้างหนา ทำให้กระจกด้านข้างมีกรอบบานเล็ก นั่งหลังอาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้ ((อย่างที่บอก..รถคันนี้เหมาะกับสายขับ ไม่เหมาะสายนั่งชิลตอนหลัง)) ส่วนประตูบานท้าย อาจจะดีไซน์มาแนวแปลกไปนิด ไม่ได้มาแบบเปิด-ปิดบานท้ายด้วยไฟฟ้า และต้องหงายมือแทงขึ้นแล้วจับดึงลงมาเพื่อปิดประตูบานท้าย แต่ก็พอเข้าใจและสนุกไปกับตัวรถได้แบบไม่ติดใจ เพราะมันอาจจะเป็นดีไซน์ที่แหวกแนวไม่เหมือนใครก็เป็นได้..

สำหรับสีสันภายนอก TOYOTA C-HR HEV GR Sport มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica / Silver roof (หลังคาสีเงิน), สีขาวมุก Platinum White Pearl / Black roof (หลังคาสีดำ) และสีแดง Premium Red / Black roof โดยสีพิเศษอย่าง Platinum White Pearl คุณต้องเติมเงิน เพิ่ม 7,000 บาท เพื่อจะได้ครอบครอง

บทสรุป

TOYOTA C-HR HEV GR Sport เป็นรถที่เหมาะสมกับบรรดาสาว ๆ เพราะเครื่องไม้เครื่องมือมันดูกระจุ๋มกระจิ๋มพอดีนิ้วมือผู้หญิงอย่างเรา ๆยิ่งนัก นอกจากนี้เค้าเหมาะกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน นั่งจู๋จี๋กันสองคนผลัดกันขับผลัดกันชิล หรือจะเป็นหนุ่มสาวโสด คุณจะได้ความคล่องตัวสูงจากรถยนต์คันนี้ ขณะเดียวกันก็จะได้ความสนุกจากการขับขี่สไตล์สปอร์ตกับช่วงล่างที่เซ็ตมาดี หนึบ แน่น นิ่ง พวงมาลัยคุมง่ายแม่นยำ และที่สำคัญคือ เค้าให้ความประหยัดน้ำมันสูงตามคาด จากเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดที่ถูกพัฒนามาอย่างไรหยุดยั้ง

เชื่อขนมกินได้เลยว่า TOYOTA C-HR HEV GR Sport จะกลายเป็นรถยนต์ขวัญใจสาวๆ ตลอดกาล