เหมือนเป็นธรรมเนียนปฏิบัติประจำทุกปี สำหรับกิจกรรม MERCEDES-BENZ CSR TRIP ขับรถล่องใต้ไปหาน้องๆ นักเรียนโรงเรียนเยาววิทย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ซึ่งปีนี้บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้สังคมไทย เดินหน้าสนับสนุน “โรงเรียนเยาววิทย์” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 ตั้งแต่การก่อตั้งโรงเรียนเพื่อรองรับเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยครั้งนี้ได้นำทีมผู้บริหาร ตัวแทนจำหน่ายฯ พนักงาน และสื่อมวลชน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบทุนการศึกษากว่า 500,000 บาท พร้อมชวนแขกรับเชิญพิเศษ “ซี – ฉัตรปวีณ์” มาสร้างสรรค์กิจกรรมเสริมทักษะด้านไอทีให้กับน้องๆ นักเรียน ตอกย้ำเป้าหมายหลัก การยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนและช่วยพัฒนาทักษะต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างรอบด้าน และสำหรับกิจกรรมในปีนี้จะเป็นอย่างไร ตามไปชมพร้อมๆ กันค่ะ
DAY 1 : หวด MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ยาวๆ ไปชุมพร ระยะทางรวม 423 กม.
คณะสื่อมวลชนนัดพบและเริ่มออกเดินทางพร้อมกันที่ Porto GO ท่าจีน มุ่งหน้าไปยังโรงแรมเดอะนูโวชุมพร ด้วยรูปแบบการเดินทางแบบ Free Run กับ MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ครั้งนี้ถือเป็นการขับ GLE ครั้งที่ 2-3 หรือ 4 แล้วกับการหวด SUV Size ใหญ่กำลังดีรุ่นนี้ ไม่ว่าจะในสนามออฟโรด หรือทางออนโรด ที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล พร้อมเทอร์โบแบบ 2-stage ขนาด 1,993 ซีซี. ให้แรงม้าสูงสุดที่ 269 แรงม้า / 4,200 รตน. และให้แรงบิดมหาศาลที่ 550 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,200 รตน. ทำงานผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-Tronic
ถึงแม้ว่า MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic รุ่นที่ขับมานี้จะเป็นโฉมเดิม ตัวประกอบในประเทศ ค่าตัวปัจจุบันอยู่ที่ 5,590,000 บาทแต่ล่าสุดทาง บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้จัด MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Line (โฉม Facelift 2024) รุ่นย่อยใหม่ ค่าตัวเบาๆ 4,980,000 บาท ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเร็วๆ นี้ ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 เอามาเสริฟให้กับสายหวานสายชิลได้เลือกเลือกช้อปใช้กัน
แน่นอนว่าในเรื่องสมรรถนะนั้น ถ้าได้ลองขับทางไกลไปกับ MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic บอกเลยคุณจะติดใจ..เพราะมันขับเนียน ขับสบาย ให้อัตราเร่งดีไหลลื่นต่อเนื่อง ห้องโดยสารเงียบเชียบ แถมนุ่มนั่งโดยสารเดินทางไกล ยังไงก็ไม่เมื่อย ขณะที่อีกรุ่น AMG line (โฉม Facelift 2024) เรื่องฟิลลิ่งการขับขี่อาจจะแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย จากการเซ็ตระบบช่วงล่างที่แตกต่างกัน โดยรุ่น AMG Dynamic ใช้ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive damping system และระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบควบคุมระดับอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังได้ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต AMG ขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยาง 275/45 R21 สำหรับล้อหน้า ส่วนล้อหลังรัดด้วยยาง 315/40 R21
ขณะที่รุ่น AMG line (โฉม Facelift 2024) ใช้ระบบช่วงล่างสปริงแบบ Lowered suspension ใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ขนาดยางหน้าหลังเท่ากัน 275/50 R20
นอกเหนือจากนี้แล้วเรื่องเครื่องเครา ความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร อัตราเร่ง การทำความเร็วสูงสุดโดยรวมเหมือน ๆ กันทั้งหมด แตกต่างเพียงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางประการ การแต่งหน้าทาปากทั้งภายนอกภายในแตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างรุ่น AMG Dynamic และ AMG Line อาทิ ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, พวงมาลัยดีไซน์สวยรูปแบบใหม่ แต่ไร้หลังคาพาโนรามิคซันรูฟและ HUD ในรุ่น AMG Line
กับค่าตัวที่แตกต่างกันระหว่างรุ่น ซึ่งห่างกันถึง 610,000 บาท รุ่น AMG Line ไม่ได้แค่.. ไฟหน้าแบบ Multibeam LED,ระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติแบบพลัส, ช่วงล่างถุงลม หลังคาพาโนรามิค, เบาะที่นั่งแถว 3, ล้อใหญ่ๆ 21 นิ้ว,จอ HUD, ไม่มีระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, ระบบช่วยคุมพวงมาลัย,ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ซึ่งระบบเหล่านี้ บอกเลย..เวลาขับรถเดินทางไกล ส่วนใหญ่ทีม iSpeed ไม่ค่อยพึ่งพา เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายที่ห่างกันถึงหลัก 6 แสนบาท MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Line ถือเป็นรถยนต์ SUV ตระกูล GLE รุ่นที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ณ ปัจจุบัน
จากนั้นราวๆ 6 ชั่วโมงพวกเราก็เดินทางถึงร้านอาหารครัวลุงเผล็น เพื่อรับประทานอาหารเที่ยง ร้านประจำฝีมือระดับมิชลินสตาร์ และปิดจบการเดินทางวันแรกด้วย MERCEDES-BENZ GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic กับการแวะกราบสักการะขอพร พร้อมเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ณ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้นับเป็นสถานที่และสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวชุมพร พร้อมเก็บภาพบรรยากาศวิวสวยๆ ริมทะเลหาดทรายรี
DAY 2 : สลับไปนั่งยักษ์ MERCEDES-BENZ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic ค่าตัว 6,980,000 บาท ระยะทางรวม 350 กม.
เตรียมตัวออกเดินทางจากโรงแรมเดอะนูโว ชุมพร รอบนี้สลับรถเพื่อให้ได้ทดลองขับ ทดลองนั่ง ทดสอบความอดทนกันอย่างทั่วถึง รอบนี้นั่งกันอย่างเดียว นั่งสวยๆ ยาวๆ สบายๆ สไตล์คุณนายเจ๊เกียว ไปกับ MERCEDES-BENZ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic
MERCEDES-BENZ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic นับเป็นรถยนต์ SUV ขนาด Full-size ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบแบบ 2-stage ทำงานร่วมกันกับชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ISG พร้อมแบตเตอรี่แบบ 48V ให้แรงม้าสูงสุดที่ 367 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิดสุดโหดที่ 750 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350-2,800 รตน. ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic เชื่อมั้ยว่าเห็นไซส์ยักษ์ๆแบบนี้ 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที
ภายในห้องโดยสารแต่งอย่างสวยด้วยชุดแต่ง AMG interior package เรียกว่าถอดแบบความหรูหราหมาเห่ามาจาก S-Class ไม่ว่าจะจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วเชื่อมต่อกัน 2 จอ มาพร้อมจอแสดงผลแบบ HUD และที่ชื่นชอบสุดๆ นั่นคือ ระบบนวดแบบ Multi Contour Seat ที่ช่วยค้นหาตำแหน่งการนั่งได้อย่างเหมาะสม แถมช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าขณะเดินทางไกลนั่งนานๆ ได้ดียิ่งนัก นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศ, แอร์ออโต 5 โซน ปรับสมดุลอากาศได้
และที่ยิ่งไฮเอนด์ขึ้นไปอีกขั้น คือการเติมจอดสัมผัสขนาด 11.6 นิ้ว 2 จอ หูฟังไร้สาย 2 ชุด และแท็บเล็ตบริเวณเบาะที่นั่งตอนหลัง บอกเลยแยกโซนแยกเสียงฟังกันแบบส่วนตัวๆ คนขับไม่ยิน ไม่รำคาญ ไม่หงุดหงิด แต่ถ้าอยากเปิดเครื่องเสียงโชว์คุณภาพลำโพง 13 ตัว พ่วงด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos บอกเลยให้คุณลองเปิดเพลง Ateez – WORK ..รับรองได้โยกหัวตามลูกหลานๆ พริ้ว..มันได้ฟิลจริงๆ
นั่งเบาะที่นั่งแถวสองพอเพลินๆ ฟังทั้งเพลง พร้อมทั้งเปิดระบบนวด ปิดม่านหน้าต่างไฟฟ้า ปิดม่านหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้สบายๆ ตามที่คุณต้องการ ประกอบเลือกธีมจอในรูปแบบต่างๆ ตาม mood and tone การเดินทาง คุณจะรู้สึกได้ว่า MERCEDES-BENZ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic กับระบบช่วงล่างที่ปรับมาใหม่หมดแบบ Adaptive damping system พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบคุมระดับอัตโนมัติ ทำงานได้ดีกว่าโฉมเดิมเยอะ นุ่มนวล นั่งสบาย นิ่ง และเงียบงัน เผลอหลับเพียงปลายก้านธูปดับ MERCEDES-BENZ GLS 450 d 4MATIC AMG Dynamic ก็พาเรามาถึงจังหวัดภูเก็ตเรียบร้อย..หลับเพลิน หลับเนียนดีจริงๆ ตื่นมาก็ได้รับประทานอาหารกลางวันอร่อยๆ ที่ร้านครัวต้นฝนจบการเดินทางในวันที่สองอย่างสมบูรณ์
DAY 3 : ขับ The New E-Class : E220 d AMG Line (W214) รุ่น Launch Edition รุ่นเริ่มต้น คุ้มราคา ค่าตัว 3,990,000 บาท ไปโรงเรียนเยาววิทย์
สำหรับ MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) และMERCEDES-BENZ E350 e AMG Dynamic (Launch Edition) ทั้ง 2 รุ่นนี้นับเป็นเรือธงรถพระเอกประจำงาน MERCEDES-BENZ CSR TRIP 2024 เพราะหลังจากโชว์ตัว อัพเดตสรรพคุณ อัดออฟชั่นล้นๆ พร้อมเปิดราคาจำหน่ายสุดว้าว!! เรียกเสียงฮือฮาได้ตลอดทั้งงานแล้ว The New E-Class ยังสามารถโกยยอดจองจนเกือบครบโควต้า 800-900 คันได้ ภายในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ 2024 เรียกว่าทำเอาบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์แทบแตกกับความดังความปัง
รอบนี้ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เค้าทำถึง..เปิดตัวรุ่น Launch Edition ของครบๆ เหมือนยก S-Class มาย่อส่วนให้สาวกตราดาวได้พิจารณาเปรียบเทียบกับราคาจำหน่ายกัน สำหรับ MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) คันนี้
การออกแบบภายนอกภาพรวมดูโฉบเฉี่ยวสไตล์รถคูเป้ ดีไซน์ด้านท้ายแบบลาดลง ตั้งใจให้คล้าย CLS ขณะที่ทรงรถดูมีสะโพกผาย ส่งผลให้ตัวรถดูโหลดเตี้ย ลดอายุคนขับไปได้มากโข ตัวรถดีไซน์มาวัยรุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนภายในห้องโดยสารเริ่ดเลอด้วย DIGITAL COCKPIT MBUX Superscreen 2 หน้าจอ ขนาด 14.4 นิ้วบนคอนโซลกลาง และขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า สั่งงานด้วยระบบสัมผัส เล่นแสงสีเสียงได้แน่น ลึก คม ชัด รอบนี้เราได้ลองระบบเครื่องเสียงของ MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) ยามค่ำคืนด้วย ตึ้บแน่นสมคำร่ำลือ แต่แอบเสียดาย ถ้าเป็นรุ่นท้อป MERCEDES-BENZ E350 e AMG Dynamic (Launch Edition) คุณจะได้เห็นระบบเครื่องเสียงแบบ Burmester 4D surround sound system ทำงานควบคู่กับเส้นสายไฟแอมเบี้ยนไลท์ 64 เฉดสี แบบ Active Ambient Light ขยับตามเสียงเพลงด้วย จอหน้าฝั่งคนนั่งเปลี่ยนโหมดจอไปเล่นเกมส์ได้นะ (รถต้องจอดสนิท) ..โอ๊ยยย! อยากลองเล่นจริงๆ
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ จากเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 1,993 ซีซี 197 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800–2,800 รอบต่อนาที พ่วงด้วยระบบ Mild Hybrid แบบ 48 โวลท์ Electrical System เติมอีก 23 แรงม้า แรงบิด 20.8 กก.-ม. ช่วยเสริมกำลังในบางจังหวะ ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 6 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ 9G–TRONIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 238 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ตามที่เคลมไว้)
เบื้องต้นแจ้งได้เลยว่า MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) รถคันนี้เป็นรถขุมพลังดีเซล ที่สามารถเก็บเสียงเข้าสู่ห้องโดยสารได้ดีเยี่ยม เสียงครางเครื่องยนต์เงียบมาก อาการสั่นสะเทือนเข้าห้องโดยสารก็น้อย การทำความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ใช้รอบต่ำดี ขับใช้งานจริงสนุก เรียกกำลังเร่งแซงบทโหดๆ ทางไกลได้ถึงใจ แรงดีไม่มีเหี่ยว แต่พอเหลียวไปดูเข็มน้ำมันก็แอบตกใจเล็กน้อย หวดไปยับกว่า 200 กม.จากโรงแรมเรเนซองท์ ภูเก็ต หาดไม้ขาวยาวๆ ไปถึงโรงเรียนเยาววิทย์ อำเภอกะปง จ.พังงา ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ที่ 16.4 กม./ลิตร (ขับกันหลายคนนะคะ ถ้าเจ๊เกียวขับคนเดียวบอกเลยทะลุ 20 กม./ลิตรแน่นอน)
สำหรับระบบช่วงล่างและการทรงตัว แน่นอนว่า MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) ต้องการขายระบบช่วงล่างแบบ lowering AGILITY CONTROL อิสระ มัลติลิงก์ 4 ล้อ ด้านหน้า 4 จุดยึด ด้านหลัง 5 จุดยึด ตัวรถออกแนวนุ่ม เนียน หนึบ พยายามโยกให้รถย้วยบางจังหวะเพื่อจับอาการ ตัวรถกลับนิ่งไม่ย้วย ไม่เวียนหัว แถมไม่สะเทือนกระด้าง โดยไม่จำเป็นต้องเลือกเป็นโหมด Sport
MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) เหมาะเป็นรถที่ตอบโจทย์คนชอบขับเอง เพราะขับสนุก คุมง่าย เร่งดี แต่ถ้าชอบนั่งโดยสารก็เรียนเชิญได้เช่นเดียวกัน เพราะไม่ว่าจะนั่งในตำแหน่งไหนก็จับฟิลได้ว่านุ่มนั่งสบาย รูดให้บ้าตายก็ยังไม่ค่อยสะเทือน (บ้าไปแล้ว)
โดยสรุป
หากถามว่าฟิลลิ่งการขับขี่รุ่นไหนตอบโจทย์เจ๊เกียว คงตอบได้เต็มปากเต็มคำว่า MERCEDES-BENZ E220 d AMG Line (Launch Edition) เพราะขับอยู่แค่คันเดียว ไม่ได้จับตัว AMG Dynamic เลยสักแอะ แต่ได้ลองสอบถามเพื่อนสื่อมวลชนที่ลองขับทั้งสองรุ่นมาบ้างแล้ว หลายคนชอบรุ่นดีเซล แต่ถ้าเชียร์ให้จับจองเป็นเจ้าของ แนะนำให้เลือกรุ่น Plug-in Hybird อย่างรุ่นท้อป MERCEDES-BENZ E350 e AMG Dynamic (Launch Edition) เรียกว่าเติมของดี ให้มาเยอะ แม้รุ่นดีเซลจะขับดีกว่าสนุกกว่า แต่ได้แค่ระบบไมด์ไฮบริดจากชุดมอเตอร์ไฟฟ้า ISG ขนาดย่อมๆ ที่ทำหน้าที่แค่ช่วยในบางช่วง อาทิ ช่วงสตาร์ท ช่วงออกตัว ช่วง Auto Start/Stop และช่วยเล็กๆ น้อยๆ ช่วงเรียกอัตราเร่งแซงบางช่วง เอาเป็นว่าถ้าจะเล่น The New E-Class (W214) ไปรุ่นท้อปได้เลยจ้า จ่ายเพิ่มอีกแค่ 260,000 บาทได้ของครบๆ ที่สำคัญโมเดลนี้สวยกว่าคู่แข่งเยอะ เฉพาะค่าของที่ได้มาในรุ่น Launch Edition ก็เกินคุ้มแล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน!! The New E-Class (W214) รุ่น Launch Edition “จองเต็ม จองหมด” ตั้งแต่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2024 แล้ว แต่สำหรับคนรักจริงหวังแต่ง ถ้าหากลองช้อนได้ก็อยากให้ลองนะเจ้าคะ เพราะเผื่อมี Accident คนจองไว้ แต่แนนซ์ไม่ผ่าน หรืออาจเปลี่ยนใจไปเล่นโมเดลอื่น
The New E-Class (W214) รุ่น Launch Edition โดยเฉพาะรุ่นท้อป น่าจะตอบโจทย์คนชอบของครบๆ จบๆ หล่อๆ ในคันเดียว
แต่ถ้าพลาดโอกาสจอง The New E-Class (W214) รุ่น Launch Edition ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ยังมีอีกทางเลือกให้คุณๆที่พร้อมจะสู่ขอรถรถยนต์ขนาดกลางรุ่นนี้ นั่นคือการส่ง รุ่น After Launch Edition ปรับราคาลดลงเหลือเพียง 3,930,000 บาท ในรุ่น AMG Line โดยถอดของออกบางประการ อาทิ สี MANUFAKTUR alpine grey solid, ถอดระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Package Plus ถอดเซอร์โวพวงมาลัยในระบบ Active Steering Assist กับ Active Lane Keeping, ประตูดูด Power closing door แต่เพิ่ม Centre airbag มาชดเชย
ขณะที่รุ่น After Launch Edition ตัวท้อป AMG Dynamic ปรับราคาลงเหลือ 4,080,000 บาท ก็ถอดของออกบางประการเช่นเดียวกัน อาทิ ถอดระบบ THERMOTRONIC automatic climate control, ถอดไฟขอบกระจังหน้า, ถอด HUD และ MBUX Interior Assistant, ถอดระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Package Plus ถอดเซอร์โวพวงมาลัยในระบบ Active Steering Assist กับ Active Lane Keeping, ประตูดูด Power closing door แต่เพิ่ม Centre airbag มาชดเชยเท่า
และเมื่อเราเดินทางมาถึง โรงเรียนเยาววิทย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ สนับสนุนโรงเรียนเยาววิทย์ โดยครอบคลุมทั้งการมอบทุนการศึกษาและสิ่งที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ รวมถึงการจัดกิจกรรมในหลายหลากรูปแบบที่ช่วยส่งเสริมองค์ความรู้และคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคน โดยในปีนี้ เรามีความตั้งใจที่จะส่งมอบเครื่องมือที่จำเป็นในยุคดิจิทัล ด้วยการสนับสนุนแล็ปท็อปจำนวน 55 เครื่อง เพื่อประโยชน์ในด้านการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเชิญกูรูไอทีชื่อดังของเมืองไทย มาร่วมแนะนำและแบ่งปันอินไซต์ด้านไอทีให้กับบุคลากรของโรงเรียนและนักเรียนทุกคน”
นอกจากการส่งมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์ไอทีให้กับโรงเรียนเยาววิทย์ อีกหนึ่งช่วงสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์และสีสันให้กับนักเรียนทุกคน คือการพูดคุยกับ คุณซี ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ ซึ่งได้ให้คำแนะนำและเทคนิคด้านไอทีอย่างครบถ้วน รวมถึงการจัดกิจกรรม “AI Photo Contest” ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้โชว์ศักยภาพการสร้างสรรค์รูปที่ผสานการใช้งานของระบบ AI เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และความเข้าใจต่อเครื่องมือต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ในโลกดิจิทัล
ไทม์ไลน์โครงการการสนับสนุนของเมอร์เซเดส-เบนซ์
• พ.ศ. 2558: โครงการ “Star Volunteer Spirit” ดึงจิตอาสาและพนักงานมาร่วมปรับภูมิทัศน์พื้นที่
• พ.ศ. 2559: โครงการ “Mercedes-Benz Star Charity” ลงพื้นที่ปลูกพริกไทยจำนวน 100 ต้น
• พ.ศ. 2560: โครงการ “Mercedes me BOX” ส่งมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนให้กับนักเรียน
• พ.ศ. 2561: โครงการ “The Road to Happiness” ส่งมอบสนามเด็กเล็กที่สร้างจากไม้ไผ่
• พ.ศ. 2562: ร่วมสร้างสนามฟุตบอลใหม่และส่งมอบสนามให้กับโรงเรียน
• พ.ศ. 2563: ส่งมอบปฎิทินและหน้ากากอนามัยในช่วง COVID-19
• พ.ศ. 2564: โครงการ “Light for Children” ติดตั้งแผงโซล่าร์เซลส์จำนวน 43 ยูนิต
• พ.ศ. 2565: เชิญเชฟชื่อดังจากรายการ “MasterChef Thailand” มาสอนทักษะการทำอาหาร
• พ.ศ. 2566: เชิญอดีตนักฟุตบอลทีมชาติมาร่วมกิจกรรมและจัดการแข่งขันนัดพิเศษ
“เราจะไม่ยอมแพ้ต่อภัยพิบัติ เราจะลุุกขึ้นสู้ จับมือ และประคับประคองก้าวเดินกันต่อไป ตราบเท่าที่เราทุกคนยังมีลมหายใจ”
เจ๊เกียว iSpeed ได้กล่าวไว้
