เรียงลำดับไหล่ตามกันมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงคิวเผยโฉม Honda WR-V 2023 (ฮอนด้า ดับเบิลยู อาร์-วี 2023) รถอเนกประสงค์ Crossover SUV ไซส์เล็ก ลุยตลาดรถยนต์เมืองไทยอย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2023
โดยเบื้องต้น Honda WR-V 2023 ถือเป็นรถยนต์เอนกประสงค์น้องเล็กสุดในกลุ่มซีรี่ส์ SUV ของทางฮอนด้า ตามข่าวรายงานว่าใช้พื้นฐานร่วมกับ Honda BR-V และด้วยการวางตำแหน่งทางการตลาดมา เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายรถยนต์เพื่อครอบครัวขนาดเล็ก จึงได้รับการดีไซน์ให้มีขนาดย่อมลงเมื่อเทียบกับ Honda BR-V แต่ยังคงความมีอรรถประโยชน์ครบครัน ทั้งการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในรถ, ระบบ Honda SENSING
ภายนอก
• กระจังหน้าดีไซน์เฉี่ยว โดยเฉพาะรุ่น RS
• โคมไฟหน้ามีทั้งแบบ LED และหลอดฮาโลเจน
• ไฟเลี้ยวแบบซีเควนเชียล ไลท์
• ไฟตัดหมอก LED
• ล้ออัลลอยด์ ดีไซน์สวยสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว
• ดีไซน์ตัวถังเป็นแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ยกสูง
• เสริมด้วยชุดแต่งสไตล์ครอสโอเวอร์ สีดำรอบคัน
• เสริมหล่อด้วยชุดราวหลังคาสีดำทุกรุ่น
• กระจกมองข้างสีทูโทน สีดำตัดสีตัวถัง มาพร้อมไฟเลี้ยวและพับเก็บอัตโนมัติ
• ไฟท้าย LED ทรง L คว่ำ
• เสาอากาศแบบ Shark Fin สีเดียวกับตัวรถ
ภายใน
Honda WR-V 2023 เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย โทนสีภายในใช้โทนสีดำตัดด้วยด้ายแดง จัดวางเบาะแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง (คาดว่าในรุ่น RS)
• เบาะมีทั้งแบบหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ตัดกับผ้า และเบาะผ้าล้วน
• เบาะที่นั่งแถว 2 พับแยกได้แบบ 60:40
• พวงมาลัยหุ้มหนัง เดินด้านด้วยสีแดง
• ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถมีขนาดความจุ 380 ลิตร
• เรือนไมล์ดีไซน์มาแบบอันนาล็อก ใช้ร่วมกับจอ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว (รุ่น RS)
• เครื่องเสียงเป็นจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
• เสริมด้วยลำโพง 6 และ 4 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศมีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ (ตามรุ่นย่อย)
เครื่องยนต์และสมรรถนะ
Honda WR-V 2023 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 1.5 ลิตร i-VTEC DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย
• ถุงลมนิรภัย 4 จุด
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติ
• กล้องมองภาพขณะถอย เป็นต้น
ทั้งนี้ ยกเว้น Honda WR-V รุ่น RS + Honda Sensing จะได้ถุงลมนิรภัย 6 จุด, กล้องแสดงภาพด้านข้าง Honda LaneWatch รวมถึงระบบ Honda SENSING ที่ประกอบด้วย ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนพร้อมช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้า และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว เพิ่มเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลคาดว่าเวอร์ชั่นไทย ก็ยังคงไม่ได้กล้อง 360 องศาเหมือนเช่นเคย
สำหรับสีสันตัวถังภายนอก ของ Honda WR-V 2023 เวอร์ชั่นอินโดนีเซียนั้น เค้าจะมีให้เลือกรวมทั้งสิ้น 6 สี ได้แก่
• สีขาว Taffeta White
(เฉพาะรุ่น E)
• สีเทา Meteoroid Gray Metallic
• สีดำ Crystal Black
• สีขาวมุก Stellar Diamond Pearl
• สีแดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น RS)
• สีแดง Ignite Red Metallic หลังคาดำ (เฉพาะรุ่น RS)
ราคาจำหน่ายเวอร์ชั่นไทย
วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2023 เวลาราวๆ 16.30 น. จะมีการเปิดตัวพร้อมแจ้งราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในส่วนของทางอินโดนีเซียนั้นมีให้เลือก 3 รุ่น ราคาดังนี้
Honda WR-V รุ่น 1.5 E CVT ราคา 279,400,000 รูเปียห์ (ประมาณ 650,000 บาท)
Honda WR-V รุ่น 1.5 RS CVT ราคา 297,400,000 รูเปียห์ (ประมาณ 685,000 บาท)
Honda WR-V รุ่น 1.5 RS + Honda SENSING CVT ราคา 317,400,000 รูเปียห์ (ประมาณ 740,000 บาท)
ส่วนเมืองไทยราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ราวๆ เท่าไร..ต้องมาคอยลุ้นกันอีกที เบื้องต้นทีมงาน ispeedegazine.com คาดการณ์ว่ารุ่นเริ่มต้นไม่น่าเกิน 650,000 บาท
และสำหรับออฟชั่นจะได้ครบจบสวยเทียบเท่า มากกว่า หรือน้อยกว่าฝั่งอินโดฯ นั้น ชาวเราต้องมาลุ้นแนวทางกันกับบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) อีกทีค่ะ
Photo : Honda-indonesia.com