SNEAK PREVIEW : ALL NEW MAZDA BT-50 รีวิว+ลองขับครบทุกรุ่น ยอมรับ!! หน้าตาหล่อ ภายในหรู พวงมาลัยคม รอชมตัวจริงต้นปี 2021

ตามประวัติความเป็นมา มาสด้า เริ่มใช้คำว่า BT-50 มาตั้งแต่ปี 2006 ต่อด้วยปี 2009 ตามด้วยปี 2011 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเป้าหมายในการพัฒนา All New Mazda BT-50 ก็เพื่อต้องการพัฒนาในทุกองค์ประกอบที่ผู้บริโภคจำเป็นต่อการใช้งาน โดยกลุ่มลูกค้าหลักๆ ที่มาสด้าตั้งธงไว้ นั่นคือ กลุ่มคนทำงานหนักเพื่อครอบครัว กลุ่มที่รู้ถึงความต้องการของตนเอง และต้องการก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีความหลากหลายบทบาทในชีวิต

All New Mazda BT-50 มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Built for DRESS and Jeans หรูก็ได้ ลุยก็ดี หรือเรียกได้ว่าการปรับดีไซน์รถปิกอัพครั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” โดยรถกระบะโมเดลนี้ได้รับการออกแบบร่วม หรือเป็นการ Co-Developing โดยการใช้โครงสร้างพื้นฐานจากรถปิกอัพเจ้าตลาดอย่าง ISUZU D-Max

All New Mazda BT-50 มาพร้อมกับขุมพลังดีเซล รหัส 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection Turbocharger VGS พร้อม Intercooler ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รตน. ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.0 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือที่ราว ๆ 12.5 กม./ลิตร

และอีกรุ่นคือ ขุมพลังดีเซล 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รตน. ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.6 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือที่ราว ๆ 15.15 กม./ลิตร

All New Mazda BT-50 มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาพร้อมรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 2WD และรุ่นขับเคลื่อน 4WD และแม้ว่าจะใช้พื้นฐานและการพัฒนาร่วมกันทั้งโครงสร้างและเครื่องยนต์ กับ Isuzu D-max แต่มาสด้าก็ยังคงเอกลักษณ์ความดีงามด้านการเซ็ตช่วงล่างให้ขับสนุก หนึบเกาะถนนตามสไตล์ Feel the Drive นอกจากนี้ ภายนอกยังคงออกแบบได้เรียบง่าย และสง่างามตามแนวคิด KODO Design เริ่มต้นจากการปรับยกฝากระโปรงหน้าให้สูงขึ้นเพื่อง่ายต่อการขับขี่ และกะระยะ ตามด้วยการออกแบบไฟหน้า LED กระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอกด้านล่าง ไฟท้ายออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ALL NEW MAZDA BT-50 2021 แบ่งรุ่นย่อย(เบื้องต้น) โดยสรุปดังนี้

  • Mazda BT-50 DBL 3.0L 4×4 AT
  • Mazda BT-50 DBL 1.9L Hi-Racer 4×2 AT
  • Mazda BT-50 FSC 1.9L Hi-Racer 4×2 AT
  • Mazda BT-50 FSC 1.9L Hi-Racer 4×2 MT

จุดเด่น ของ Mazda BT-50 มี 5 หัวข้อหลัก ๆ คือ

1.ดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
คือ การนำเอาเอกลักษณ์ด้านการออกแบบ “โคโดะ ดีไซน์” มาใช้ จากการปรับภาพลักษณ์และใช้ดีไซน์การออกแบบตามแบบฉบับโคโดะดีไซน์มาตั้งแต่ปี 2011 เรียกว่ามาสด้าได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงเอกลักษณ์ที่เด่นชัดและมีการนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ โมเดล ไม่ว่าจะเป็นรถนั่ง รถอเนกประสงค์ SUV และรถกระบะ ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่มาสด้าได้รับการยอมรับมาโดยตลอด

2.แพกเกจจิ้งหรือองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ในตัวรถเพื่อำนวยความสะดวกสบายต่อผู้ใช้
การออกแบบ MAZDA BT-50 ใหม่ มีมิติโครงสร้างตัวถังที่เล็กกว่า BT-50 โฉมปัจจุบันเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วพื้นที่ภายในห้องโดยสารยังคงเทียบเท่ากับรุ่นปัจจุบันอยู่

3.ความสงบเงียบ นุ่มสบายของภายในห้องโดยสาร
MAZDA BT-50 ใหม่ ได้รับการออกแบบให้มีห้องโดยสารที่สงบเงียบเชียบขึ้น โดยการใช้วัสดุและฉนวนต่างๆ ที่บริเวณขอบเสา ขอบตัวถัง รวมถึงพรมปูพื้นรถยังได้รับการออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกับฉนวนที่บุพื้นรถ ทั้งนี้ เพื่อลดเสียงต่าง ๆ ทั้งจากเสียงเครื่องยนต์ เสียงพื้นถนนและเสียงยาง ช่วยลดความตึงเครียดให้กับผู้โดยสารภายในรถ

การออกแบบภายในมีความคล้าย Isuzu D Max หน้าจอสัมผัสขนาด 7.0 นิ้วพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อ Bluetooth

ขณะที่การลดเสียงจากลมปะทะด้านหน้า และด้านบน MAZDA BT-50 ใหม่ ยังใช้ซีลขอบยางประตูใช้ซีล 2 ชั้นแบบเชื่อมสนิท ซึ่งเก็บเสียงได้ดีขึ้น ขอบกระจกต่างๆ บริเวณแผงประตูออกแบบโดยการลดทอนช่องว่างออกไป ส่งผลลให้เสียงที่ผ่านเข้าสู่ห้องโดยสารลดน้อยลง

4.สมรรถนะการขับขี่
MAZDA BT-50 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2 ขนาดเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร และ 1.9 ลิตร ซึ่งมีการปรับลดขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลงจาก BT-50 โฉมปัจจุบันเล็กน้อย แต่พละกำลังยังคงอยู่ในเรนจ์ที่แข่งขันในตลาดได้อยู่ ขณะเดียวกันเครื่องยนต์ 2 บล็อกนี้ยังมีส่วนช่วยในการลดมลภาวะเป็นพิษ ลด CO2 ลด PM 2.5 ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ซึ่งให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 6.6 ลิตร ต่อ 100 กม. หรือราว ๆ 17 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรแล้ว ถือว่าประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นถึง 15% เลยทีเดียว

และนี่คือเหตุผลที่มาสด้าออกแบบมิติตัวถังให้ MAZDA BT-50 ใหม่ ให้เล็กลงเล็กน้อย ใช้ขุมพลังที่ดาวน์ไซส์ลงมา ก็เพื่อต้องการหวังผลระยะยาวในด้านการให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น โดยแรงบิดและแรงม้ายังคงสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในแบบตัวเปล่าและบรรทุกหนักได้เหมือนเคย การทรงดีไม่แตกต่างไปจากเดิม

ส่วนระบบเบรก MAZDA BT-50 ใหม่ใช้ดิสเบรกหน้า 2 ขนาด คือ 17 นิ้ว (รุ่นดับเบิ้ลแค็บ) และ 15 นิ้ว (รุ่นแค็บ) โดยปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นจาก 16 นิ้วในโฉมปัจจุบัน ขณะที่ด้านหลังยังคงใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว มีการปรับแต่งระบบเบรก เพิ่มประสิทธิภาพหม้อลมเบรกและระบบระบายความร้อน ส่งผลให้ MAZDA BT-50 ใหม่ มีระยะเบรกที่สั้นขึ้น มั่นใจได้มากยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยยังคงผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิก ไม่ใช่ไฟฟ้า

5.ระบบความปลอดภัย

จัดเต็มเรื่องระบบความปลอดภัย

  • เบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCM
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดบอด Blind Spot Assist
  • ระบบเตือนออกนอกเลน LDW
  • ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ LKA
  • ระบบควบคุม Hill Ascent และ Hill Descent
  • เรดาร์ช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control
  • กล้องถอยหลัง